บางครั้งแม้จะดูแลตัวเองดีแค่ไหน แต่โรคร้ายก็เกิดขึ้นได้กับทุกคนโดยไม่คาดคิดเสมอ มาดูเรื่องราวน่าประทับใจของ 7 นักสู้ดาราฮอลลีวูดที่เผชิญหน้ากับโรคร้าย แต่ก็ผ่านมรสุมนี้เหล่านั้นไปได้ เป็นแรงบันดาลใจให้ต่อสู้กับทุกอุปสรรคในชีวิต และรักษาทั้งกายใจให้แข้มแข็งเพื่อตัวเองและคนที่รัก
1. ไมเคิล ซี. ฮอลล์
ไม่น่าเชื่อว่าหนุ่มนักแสดงที่เพิ่งอายุ 38 ปี และร่างกายดูแข็งแรงสมบูรณ์ดีอย่างไมเคิล ซี. ฮอลล์จะเป็นโรคร้ายที่ฟังดูน่ากลัวอย่าง มะเร็งต่อมน้ำเหลือง เขาเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไม่บอกใคร จนการถ่ายทำซีรีส์ Dexter ซีซั่นที่ 4 จบลง และเข้ารับการรักษาทันที แม้ว่าจะต้องต่อสู้กับอาการบาดเจ็บด้วยการฉายรังสี แต่เขาก็ตั้งใจไปโชว์ตัวรับรางวัลในงานลูกโลกทองคำด้วยรอยยิ้ม เพื่อแสดงให้แฟนๆ เห็นว่าเขายังสู้อยู่ และยังไม่เป็นไร ตอนนี้อาการเจ็บปวดเริ่มลดลงและเขากลับมาแสดงได้แล้ว ผลงานล่าสุดเขาเล่นในหนังดราม่าคู่กับ เลียม นีสัน ในเรื่อง Mark Felt ที่กำลังจะเข้าฉายในปีนี้
2. แองเจลีนา โจลี
สาวสวยที่ไม่ได้เป็นแค่นักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์เท่านั้น เธอยังทำหน้าที่เป็นแม่ที่ดีของลูกๆ ทั้ง 6 คน ทำงานเพื่อสังคมในมูลนิธินานาชาติ และเธอยังเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งเต้านม หลังแพทย์พบความผิดปกติของยีน BRCA1 ทำให้เธอต้องผ่าตัดเต้านมทั้ง 2 ข้าง และท่อรังไข่ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็ง เหมือนกับยาย แม่ และป้าของเธอที่ล้วนจากไปด้วยโรคนี้ เธอจึงไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นกันเกิดกับเธอ และสร้างบาดแผลให้กับของลูกๆ
"พวกเด็กๆ สามารถเห็นรอยแผลเป็นเล็กๆ นี่ได้ และฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้พวกเขาสบายใจ ว่าฉันรักพวกเขาและจะอยู่เพื่อพวกเขา มันไม่ได้น่ากลัว หรือลดความเป็นผู้หญิงในตัวฉันลงเลยค่ะ"
3. ฮิวจ์ แจ็กแมน
ไม่น่าเชื่อว่านักแสดงมนุษย์กลายพันธ์สุดเท่และแข็งแกร่งอย่าง วูล์ฟเวอรีน ก็ยังเป็นโรคนี้ โชคดีที่เขาได้รับการรักษาก่อนที่จะเกิดอันตราย หลังจากที่เดโบราห์ ลี เฟอร์เนสส์ ภรรยาของเขาสังเกตเห็นความผิดปรกติ และบอกให้เขาไปหาหมอทันที เขาเลยได้พบว่าก้อนเนื้อเล็กๆ ที่ขึ้นตรงจมูกนั้นไม่ใช่เนื้อธรรมดา แต่เป็นเนื้อร้ายของโรคมะเร็งบาซอล เซลล์คาร์ซิโนมา หลังจากรับการรักษา ฮิวจ์ก็ออกมาเตือนแฟนๆ ให้ตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องเล็กๆ นี้ทันที “ขอร้องนะครับ อย่าโง่งี่เง่าเหมือนผม พาตนเองไปรับการตรวจเถอะครับ” พร้อมกับบอกว่า “แล้วก็อย่าลืมใช้ครีมกันแดดด้วย!”
4. เอดี้ ฟอลโก
นักแสดงสาวที่ได้บทเด่นในซีรีส์จอเงินหลายเรื่อง ไม่ว่าจะ Sopranos หรือคอมเมดี้ซีรีส์เกี่ยวกับชีวิตในโรงพยาบาลเรื่อง Nurse Jackie ที่ทำให้แฟนๆ ซีรีส์หลายคนจะรู้จักเธอดี แต่มีน้อยคนที่รู้ว่าเธอต้องต่อสู้กับโรคร้ายนี้ทั้งๆ ที่กำลังแสดงอยู่ เธอให้สัมภาษณ์บอกว่าผมเธอร่วงเยอะจนน่าเกลัวเลย และสาวคนนี้ก็ไม่ยอมแพ้ เธอชหันมาสู้กับโรคร้ายด้วยการออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง และเข้ารับการทำคีโมบำบัด
5. มิสเตอร์ที
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ที่เคยเล่นเป็นนักมวยปล้ำ ในภาพยนตร์เรื่อง ร็อกกี้ 3 ของ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน และได้แสดงภาพยนตร์ซีรีส์ The A-Team ที่ประสบความสำเร็จในปี 90 เขาเป็นไอดอลขวัญใจคอบู๊ แม้ว่าตัวเขาเองต้องลำบากกับการสู้กับโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่มีชื่อว่า T-cell lymphoma
"ลองคิดดูสิ ผมเป็นมะเร็งที่มีชื่อเดียวกับตัวเองเลย นี่เป็นมะเร็งส่วนบุคคลเลยนะ!"
เขาต้องเข้ารับการฉายรังสีเป็นประจำ "แผลมันเริ่มพุพอง และเติบโตในร่างกาย โดยที่ผมไม่สามารถหยุดยั้งมันได้ มะเร็งนี่มันเจริญเติบโตยังกับข้าวโพดคั่วในไมโครเวฟเลยนะ ผมเคยกลัวมาก และกว่าจะผ่านมันมาได้ก็ยากลำบากมาก" มิสเตอร์ทีเข้ารับการทำเคมีบำบัดนานกว่า 1 ปี และในที่สุดเขาก็ควบคุมมันได้
6. ร็อด สจ๊วต
ร็อกเกอร์รุ่นลายคราม ด้วยเสียงแหบเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เขาโด่งดังในยุค 1960 กับการเป็นสมาชิกวง The Jeff Beck Group และอาชีพของเขาแทบจะสิ้นสุดลงเมื่อเขาพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ ซึ่งการรักษามีเปอร์เซ็นต์เสี่ยงมาก เพราะหากเกิดความผิดพลาดขึ้นแม้แต่นิดเดียว เขาก็อาจจะร้องเพลงไม่ได้อีกต่อไป
"ใช้เวลา4 ชั่วโมง ที่ใบมีดของศัลยแพทย์เริ่มทำการผ่าตัด เอาเนื้อร้ายมะเร็งต่อมไทรอยด์ออกไปจากกล่องเสียงในลำคอผม ผมหลับตาและเหมือนได้ยินเสียงว่า ‘Goodnight, Vienna’ แต่การผ่าตัดก็จบลงด้วยดี
โชคดีที่เขาไม่ต้องทำเคมีบำบัด แต่ก็ต้องงดร้องเพลงนานถึง 6 เดือน ก่อนจะกลับมาฝึกออกเสียงใหม่จนสามารถฟื้นฟูสภาพเสียงได้
7. เชอรีล โครว์
นักร้องสาวคนดัง เจ้าของรางวัลแกรมมี่ เธอต้องเลื่อนทัวร์คอนเสิร์ตออกไปทันทีที่ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งในเต้านม เธอต้องเข้ารับการเข้าผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออกมา โชคดีที่เจ้าเนื้อร้ายก้อนเนื้อนี้มีขนาดเล็ก พอหายดีเธอก็กลับมาร้องเพลงที่เธอรักได้เหมือนเดิม และสาวคนนี้เขียนหนังสือ Crazy Sexy Cancer Tips เพื่อให้กำลังใจผู้ป่วยมะเร็งเหมือนเธอด้วย