หลังจากปล่อยตัวอย่าง X-Men: Apocalypse เมื่อไม่กี่วันก่อน ไบรอัน ซิงเกอร์ผู้กำกับเรื่องนี้ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับ Empie ถึงเทลเลอร์ชองตัวเองซึ่งแบ่งออกเป็น 5 หัวข้อดังต่อไปนี้
1. X-Men: Apocalypse เกี่ยวกับการก่อตั้งทีม X-Men
ไบรอัน ซิงเกอร์ผู้กำกับของเรื่องได้ให้สัมภาษณ์กับ Empire เอาไว้ว่า “ภาพยนตร์เรื่องนี้เกี่ยวกับการก่อตั้งทีม X-Men” ก่อนจะอธิบายเพิ่มเติม “คุณจะทำยังไงให้ตัวละครพวกนี้ที่อยู่กันคนละที่มารวมตัวเป็นทีม X-Men ได้ นั่นละคือสิ่งที่ท้าทายสำหรับเรื่องนี้”
ซึ่งจากเรื่องย่อและตัวอย่างที่ปล่อยออกมาทำให้เรารู้ว่า ราเวน หรือ มิสทีค จะเป็นคนนำทีม X-Men ในครั้งนนี้ ผู้กำกับอย่างไบรอัน ซิงเกอร์จึงมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “เธอทำงานคนเดียว การเข้าทีม X – Men คือสิ่งสุดท้ายที่เธอต้องการ แต่เราหาจุดยืนที่ตัวละครแต่ละตัวอยู่และพาพวกเขาไปด้านที่ตรงข้ามจากเริ่มแรก” นอกจากนี้เขายังเน้นย้ำอีกว่าตัวละครที่อยู่ตรงหน้าเราตอนนี้เป็นตัวละครที่ยังเป็นเด็กอยู่ไม่เหมือนที่เราเห็นใน X-Men: The Last Stand
2. Apocalypse เจอจตุรอาชาในช่วงเวลาที่อ่อนไหว
อย่างที่เรารู้กันว่าอะโพคาลิปส์จะมีลูกสมุนเรียกว่าสี่จุตรอาชาได้แก่ แม็กนีโต,ไซล็อค,อาร์คแองเจิ้ล และ สตอร์ม ซึ่งทางผู้กำกับก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าตอนที่เขาเจอกับสตอร์มและแม็กนีโตนั่นพวกเขากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่อ่อนไหว
“สตอร์มกำลังค้นหาพ่อแม่และหมู่บ้านที่หายสาบสูญของเธออยู่”
ก่อนซิงเกอร์จะพูดถึงสาเหตุที่ผู้นำอย่างแม็กนีโตหรืออีริคยอมจำนนกับอะโพคาลิปส์ว่า “อะโพคาลิปส์เจออีริคอยู่ในสถานที่ที่ทรงคุณค่าที่สุดในชีวิต ... เขา (อีริค) กำลังมองหาพระเจ้าอยู่ จำได้ไหม เขายังเป็นชาวยิวตัวเล็ก ๆ ในค่ายกักกันอยู่เลยตอนที่เสียครอบครัวไปครั้งแรกนั่นอะ และตอนนี้เขาก็อยู่ต่อหน้าชายที่เป็นหรืออ้างตนว่าเป็นพระเจ้า นอกจากนั่นการโน้มน้าวใจคนก็เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของอโพคาลิปส์อีกด้วย”
นอกจากนี้ไบรอัน ซิงเกอร์ยังพูดถึงคาแร็คเตอร์ของแม็กนีโตต่ออีกว่า “เขาเป็นหนึ่งในตัวละครที่สำคัญที่สุด … ฟานเบนเดอร์ (นักแสดงที่รับบทเป็นแม็กนีโต) การแสดงของเขาไม่ได้อิงตามคอมิค มีหลายฉากที่คุณไม่เคยเห็นจากหนังคอมิคมาก่อน ผมว่านะอีริคอยู่บนเส้นทางที่ซับซ้อนที่สุดสายหนึ่งในเรื่อง”
3. พลังของ Apocalypse หรือ En Sabah Nur
ตามในคอมิค อะโพคาลิปส์ หรือ เอน ซาบาห์ เนอร์ สามารถขยายร่างได้เหมือนที่เราเห็นในตัวอย่างหนังฉากชาร์ล ซาเวียร์ต่อยประสานมือกัน “ผมใส่อะไรบางอย่างเข้าไปในการขยายร่าง คิดว่าคนดูน่าจะชอบนะ” ไบรอัน ซิงเกอร์กล่าว “อะโพคาลิปส์เป็นคนหนึ่งที่ยากจะต่อกรด้วย นี้คือสาเหตุที่เขาคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้า”
4. ฉากวิ่งสุดโหดของ Quicksilver
ฉากหนึ่งที่สร้างความประทับให้กับคนดูตั้งแต่ภาค Day of Future Past คือฉากควิ๊กซิลเวอร์วิ่งช่วยแม็กนีโตในเพนตากอน ซึ่งฉากสโลโมชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ของสปีดสตาร์ผู้นี้ก็มีมาให้เห็นใน X-Men: Apocalypse เหมือนกันแถมยังเป็นฉากที่ไบรอัน ซิงเกอร์ถึงกับเอ่ยปากว่าเป็นฉากที่ทำอย่างทรหดอีกด้วย
“ฉากที่ อีแวน ปีเตอร์ส เล่นเป็น ควิ๊กซิลเวอร์ แล้ววิ่งผ่านสิ่งต่าง ๆ ฉากนี้ใช้เวลาถ่ายเดือนครึ่งกว่าจะได้ ในฉากมีระยะเวลาประมาณ 2 – 3 นาที แต่อีแวนต้องทำงานกว่า 17 วัน มันเป็นฉากหนึ่งที่น่าจะอลังการที่สุดในชีวิตผมเลยนะ” ผู้กำกับวัย 50 ปีกล่าว
“โทนมันจะแตกต่างจากตอนเพนตากอน (ในภาค DOFP) แล้วก็หวานอมขมกลืนนิดนึง … ผมบอกแค่นี้ละ”
5. ฉากไคล์แม็กซ์ของแฟรนไชส์ X-Men
ฉากที่สร้างความสนใจให้กับคนดูมากที่สุดก็คงไม่พ้นชาร์ล ซาเวียร์โกนหัวนั่งรถเข็นที่เหมือนกับ X – Men ภาคแรก ซึ่งผู้กำกับก็พูดถึงฉากนี้ไว้ว่า “ผมอยากให้คนดูรู้ว่าฉากนี้ไม่ใช่ไคล์แม็กซ์ของหนัง 3 ภาคนะ… แต่มันคือฉากไคล์แม็กซ์ทั้ง 6 ภาคเริ่มตั้งแต่ X-Men 1” นอกจากนี้ซิงเกอร์ยังเผยอีกว่าเก้าอี้ในเรื่องเป็นตัวเดียวกันกับภาคแรกที่พวกเขาซื้อจากนักสะสมมา
ดู Wolverine vs Hulk คลิก
